วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สูตรสมุนไพรสดพอกหน้า พอกตัว ว่านหางจระเข้

สูตรสมุนไพรสดพอกหน้า ว่านหางจระเข้     

ในที่นี้เป็นการนำเอา ว่านหางจระเข้ มาทำเป็น ครีมสมุนไพรสด รักษาสิว ฝ้า ตกกะ หน้าหมองคล้ำ ได้อย่างมีผลดีน่าพอใจ มีผู้ใช้ประโยชน์จากวุ้นว่านหางจระเข้กันอย่างแพร่หลายมาก แต่การใช้สมุนไพรสดว่านหางจระเข้ จะต้องระมัดระวังให้มาก เพราะยางของว่านหางจระเข้ มีพิษอาจทำอันตรายผิวหนังคนเราได้ด้วยนั่นเอง


สูตรสมุนไพรสดพอกหน้า-พอกตัว ว่านหางจระเข้ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100%
ส่วนผสมของสมุนไพรสดพอกหน้า ว่านหางจระเข้
   วุ้นว่านหางจระเข้ 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีผสมสมุนไพรสดพอกหน้า ว่านหางจระเข้
1.      สมุนไพรสดพอกหน้า ว่านหางจระเข้ สูตรพิเศษนี้เป็นการนำเอาว่านหางจระเข้มาใช้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็พอแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องเอาสมุนไพรอย่างอื่นมาผสมรวมเข้าไปอีก น้ำก็ไม่ต้องเอามารวมด้วยเพราะว่านหางจระเข้ก็เป็นเมือกลื่นมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่แล้ว จึงตัดน้ำออกไปได้ไม่ต้องเอามาเป็นตัวละลายอะไรเลย
2.      การนำว่านหางจระเข้มาใช้นั้น ตามตำราสมุนไพรโบราณ หมอพื้นบ้านของไทย ท่านได้กำนดเอาไว้ว่า ควรเอากาบใบอวบใหญ่ ๆ ที่เป็นกาบใบใหญ่ใบแรกที่อยู่ข้างใต้สุด และต้องปลูกต้นว่านหางจระเข้ให้มีอายุมากกว่า 1 ปี จึงจะได้เนื้อวุ้นมาอย่างมีสรรพคุณทางยาสมุนไพร
3.      และที่สำคัญการนำเอาวุ้นของว่านหางจระเข้นี้มาใช้ จะต้องล้างกาบใบว่านหางจระเข้ให้สะอาดเสียก่อน แล้วนำมาปอกเปลือกสีเขียวออกไปให้หมด อย่าให้หลงเหลืออยู่แม้แต่นิดเดียว เพราะยางของว่านหางจระเข้จะเป็นอันตราย โดยให้ปอกเปลือกกาบใบสีเขียวออกโดยรอบ ให้กินเข้าไปในเนื้อวุ้นของว่านหางจระเข้เข้าไปมากพอสมควร ไม่ใช่ปอกเพียงผิวเท่านั้น
4.      ต่อมานำวุ้นว่านหางจระเข้ไปล้างในน้ำให้สะอาดอีก 2-3 น้ำ โดยต้องเปลี่ยนน้ำทุกครั้ง ต่อจากนั้นเอามาลวกด้วยน้ำร้อนอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงเอาวุ้นว่านหางจระเข้มาปั่นด้วยเครื่องปั่นน้ำผลไม้ เอามาใส่ถ้วยไว้ใช้การได้
วิธีใช้สมุนไพรสดพอกหน้า ว่านหางจระเข้
  • ก่อนอื่นให้ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำธรรมดาทั่ว ๆ ไป ไม่ต้องใช้สบู่ใด ๆ ทั้งสิ้น แล้วซับผิวหน้าให้แห้ง รอจนใบหน้าแห้งดีแล้ว
  • เอาวุ้นของว่านหางจระเข้มาพอกลงบนใบหน้า เว้นรอบดวงตา เว้นรอบริมฝีปาก พอกให้ทั่วใบหน้าพอกให้ทั่วใบหน้าจากนั้นให้พอกไปที่คาง ลำคอโดยรอบ รวมทั้งช่วงไหล่ แขน และใต้ลำคอลงมาถึงทรวงอกด้วย แล้วปล่อยทึ้งไว้เฉย ๆ ให้ตัวยาสมุนไพรแทรกซึมเข้าไปในรูขุมขน แทรกเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อทำหน้าที่บำรุงรักษาผิวพรรณได้อย่างเต็มที่ เป็นเวลาประมาณ 10-15 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซับผิวหน้าให้แห้งอีกครั้งหนึ่ง
สมุนไพรสดพอกหน้าว่านหางจระเข้ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100%
สามารถสร้างความสดใส สะอาด ให้แก่ผิวหน้าได้อย่างวิเศษ ลบริ้วรอยหมองคล้ำ จุดด่างดำ ป้องกันสิว รักษาสิว หรือจะเอามากินก็ได้ นับว่าว่านหางจระเข้เป็นยาสมุนไพรชั้นดี โดยทั้งกินทั้งพอก ก็ช่วยให้สุขภาพของผิวหน้าได้ดียิ่งขึ้น
วุ้นของว่านหางจระเข้ยังมีสรรพคุณทางยาที่ดีในการรักษาอาการอักเสบของกระเพาะอาหารได้อีกด้วย แผลในกระเพาะอาหารเอาวุ้นของว่านหางจระเข้มากินก็เป็นยาดีที่สามารถรักษาได้
เคล็ดลับในการเลือกใช้สมุนไพรพอกหน้า
พืชสมุนไพรทั้งหลายที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรประเภทต้นหญ้า พืชเถา ต้นไม้ยืนต้น ใบ ดอก แก่น เนื้อไม้ ราก เมล็ด หรือสิ่งที่ได้มาจากสัตว์ เช่น นมสด น้ำผึ้ง ไข่แดง ไข่ขาว นับได้ว่ามีคุณค่าในการเอามาเป็นส่วนผสมที่ดีสำหรับครีมพอกหน้า แต่การใช้ให้เหมาะสมกับสภาพของผิวหน้าของแต่ละคนนั้นจะต้องพิจารณาให้ดีเสียก่อน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดผลดีที่สุดในการบำรุงผิวหน้าให้สวยสดงดงามเกลี้ยงเกลาอยู่เสมอ ดังนั้นหลักสำคัญบางประการก่อนที่จะนำเอาสมุนไพรพอกหน้าสูตรต่าง ๆ ไปใช้ในการพอกหน้าของตนเองหรือให้ผู้อื่นใช้นั้น จะต้องคำนึงถึงลักษณะของผิวหน้าด้วยเช่น คนที่มีผิวหน้ามันและผิวหน้าแห้งเพื่อให้เกิดผลที่ดีที่สุด
สำหรับคนที่มีผิวหน้ามัน
  • ใช้ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว มีความเป็นกรดได้ดี แต่ไม่ควรใช้ในปริมาณมากจนเกินไป ควรใช้เพียงเล็กน้อยจะได้ผลดีกว่า ต้องอยู่ในดุลยพินิจด้วยว่าเป็นผลไม้ชนิดใด เปรี้ยวมากน้อยเพียงไร อย่างเช่น หากใช้น้ำมะนาวมาผสม ก็ใช้เพียง 2 หยด ก็พอต่อปริมาณน้ำ ครึ่งแก้ว มะขามเปียกเปรี้ยวไม่มากนัก สามารใช้ในปริมาณที่มากพอสมควรได้ สำหรับคนที่มีผิวหน้ามันทั้งหลาย
  • อย่านำน้ำมันมะกอกหรือไข่แดงมาผสมใช้รวมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวหน้ามันยิ่งขึ้นไปอีก แต่สามารถใช้ไข่ขาวของไข่ไก่มาผสมเข้ากับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ได้ เพื่อเกิดประโยชน์ได้ดีสำหรับคนที่มีผิวหน้ามันทั้งหลาย
  • สำหรับคนที่มีผิวหน้ามัน ให้นำแตงกวามาหั่นเป็นแว่น ๆ แล้วมาแปะลงไปที่ผิวหน้าของตนเองก็นับว่ามีความเหมาะสมดีทีเดียว เพราะแตงกวามีประโยชน์มากสำหรับคนที่มีผิวหน้ามัน เอาแตงกวามาใช้กันสด ๆ ไปเลยนะค่ะ ถ้าไม่ต้องการใช้วิธีแปะก็เอาเนื้อแตงกวามาปั่นให้ละเอียดแล้วนำเอาพอกลงไปที่ผิวหน้าเอาไว้ก็ได้ผลดีเช่นกัน เอมไซม์ที่มีอยู่ในเนื้อแตงกวาจะทำหน้าที่ชำระทำความสะอาดให้ผิวหน้าสำหรับคนที่ผิวมันของคุณเกลี้ยงเกลามากยิ่งขึ้น รวมทั้งเซลล์ที่ตายไปแล้วออกมาในลักษณะของขี้ไคล ผิวหน้าจะสดใสเปล่งปลั่งนวลเนียนมากขึ้น
สำหรับคนที่มีผิวหน้าแห้ง
  • จงอย่านำแตงกวาสดมาใช้สำหรับคนที่มีผิวหน้าแห้งโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผิวหน้าที่แห้งอยู่แล้วยิ่งแห้งหนักไปอีก หันไปใช้สมุนไพรชนิดอื่น ๆ ที่ไม่มีอันตรายต่อผิวแห้งทั้งหลายดีกว่า ซึ่งมีอยู่มากมาย เมินแตงกวาไปเสียทันที
  • จงอย่านำเอาผลไม้หรือสมุนไพรที่ออกรสเปรี้ยวมาก มีกรดมากมาใช้เพราะไม่ถูกกันนั่นเอง หากเป็นผลไม้หรือสมุนไพรที่มีกรดอ่อน ๆ ก็อนุโลม เช่น ส้มเขียวหวาน ส้มเช้ง เป็นต้น เพราะรสเปรี้ยวหรือความเป็นกรดมีอยู่น้อยกว่า
  • คนที่มีผิวหน้าแห้งทั้งหลาย หากนำเอาผลไม้หรือสมุนไพรที่มีกรดไม่มากนักมาใช้เป็นส่วนผสมพอกผิวหน้า ควรใช้ในปริมาณที่ไม่มากนัก และต้องใช้เวลาในการพอกหน้าไม่นานนัก เช่นให้ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็เพียงพอแล้ว ไม่ควรพอกหน้านาน 20-30 นาที
  • สำหรับคนที่มีผิวหน้าแห้ง หากนำเอาไข่แดงของไข่ไก่มาเป็นส่วนผสมของสมุนไพรพอกหน้าแล้วจะดีกว่า ทำให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื่นขึ้นได้ แต่อย่านำเอาไข่ขาวมาผสมก็แล้วกัน เอาเฉพาะไข่แดงเท่านั้นนะค่ะ
น้ำผึ้งแท้หรือน้ำผึ้งเดือนห้า
น้ำผึ้งถือเป็นสมุนไพรยาอายุวัฒนะที่ดีเยี่ยมอย่างหนึ่งของคนไทย มีการใช้น้ำผึ้งกันมาแล้วตั้งแต่ในสมันโบราณ แพทย์แผนไทยหรือหมอพื้นบ้าน เอามาปรุงยาต่าง ๆ เช่น ยาเม็ดลูกกลอน เอามาผสมเพื่อชงเป็นยาน้ำก็มี น้ำผึ้งยังเป็นส่วนผสมของสมุนไพรต่าง ๆ แล้วเอามาเป็นสมุนไพรสำหรับทา พอก ผิวหน้า เพื่อบำรุงใบหน้า รักษาสุขภาพของผิวหน้าให้นุ่มนวลเกลี้ยงเกลาอยู่เสมอ สร้างความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหน้าได้ดี เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่วิเศษทีเดียว

สูตรสมุนไพรสดพอกหน้า ขมิ้น


สูตรสมุนไพรสดพอกหน้า ขมิ้น
ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100%



สูตรสมุนไพรสดพอกหน้าขมิ้น เพื่อสุขภาพผิวพรรณดีผุดผาดกระจ่างใส




 ส่วนผสมของสมุนไพรสดพอกหน้า ขมิ้น

  • ขมิ้นสด     1 กำมือ
  • มะนาว     1 ผล
  • ดินสอพอง     3-4 เม็ด
  • น้ำผึ้ง     1 ช้อนโต๊ะ
 วิธีผสมสมุนไพรสดพอกหน้า ขมิ้น
นำขมิ้นสดมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นให้หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำไปปั่นในเครื่องปั่นผลไม้ รวมกับดินสอพอง น้ำมะนาวและน้ำผึ้ง ปั่นจนละเอียดรวมกันเป็นเนื้อข้นและเหนียว
 วิธีใช้สมุนไพรสดพอกหน้า ขมิ้น
1.      ก่อนอื่นให้ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำธรรมดาทั่ว ๆ ไป ไม่ต้องใช้สบู่ใด ๆ ทั้งสิ้น แล้วซับผิวหน้าให้แห้ง รอจนใบหน้าแห้งดีแล้ว
2.      นำส่วนผสม สมุนไพรสดพอกหน้า ขมิ้น ที่ได้มาพอกลงบนใบหน้า เว้นรอบดวงตา เว้นรอบริมฝีปาก พอกให้ทั่วใบหน้าพอกให้ทั่วใบหน้าจากนั้นให้พอกไปที่คาง ลำคอโดยรอบ แล้วปล่อยทึ้งไว้เฉย ๆ ให้ตัวยาสมุนไพรแทรกซึมเข้าไปในรูขุมขน แทรกเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อทำหน้าที่บำรุงรักษาผิวพรรณได้อย่างเต็มที่ เป็นเวลาประมาณ 15 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำอุ่นตามด้วยน้ำเย็น ซับผิวหน้าให้แห้งอีกครั้งหนึ่ง เพียงเท่านี้เอง และควรพอกหน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง สูตรนี้ใช้ได้กับทุกสภาพผิว
3.      ทุกครั้งที่ซับผิวหน้านั้นมีวิธีซับนิดหน่อยว่าให้ซับหน้าเบา ๆ ไม่ใช่เช็ดถูลากเอาผ้าขนหนูดึงให้แก้มหย่อนยานลงมา คางร่นลงมา หากทำหลาย ๆ ครั้ง จะเกิดผลของอาการผิวหนังหย่อนลงมาอย่างน่าเกลียดในที่สุด นี่เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง
เรียบเรียงบทความ
"สูตรสมุนไพรสดพอกหน้า ขมิ้น ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100%"
โดยกองบรรณาธิการ
www.YesSpaThailand.com 



สูตรสมุนไพรสดพอกหน้า พอกตัว ใบย่านาง

สูตรสมุนไพรสดพอกหน้า พอกตัว ใบย่านาง

ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100%



หลายคนได้มีการใช้ประโยชน์จากใบย่านางมาแล้ว ลองสอบถามแม่ครัวดูซิ เพราะแม่ครัวได้นำเอาใบย่านางมาโขลก คั้นเอาน้ำเขียว ๆ ที่ได้มาใส่ในน้ำแกงกันในเมนูที่สาว ๆ หลายคนชื่นชอบ เช่น แกงลาว แกงเปรอะ น้ำที่คั้นได้จากใบย่านาง จะทำให้รสชาติของแกงเกิดรสชาติที่ดี อร่อย และน่ากิน
หมอพื้นบ้านของไทยเรา เอารากของต้นย่านางมาต้มเอาน้ำมาดื่มแก้อาการไข้ได้ดี มีการวิจัยออกมาแล้วว่า ใบย่านางมีวิตามินเอ มากเป็นพิเศษ จากปริมาณ 100 กรัม ใบย่านางจะมีวิตามินเอ ร้อยละ 30,625 หน่วยสากล แล้วมีวิตามินซี มากร้อยละ 141 มิลลิกรัม นอกจากนี้ก็มีวิตามินต่าง ๆ อยู่มากน้อยลดหลั่นกันไป
ในที่นี้เป็นการนำเอาใบย่านางมาโขลกแล้วคั้นเอาแต่น้ำ เพื่อใช้เป็นสมุนไพรบำรุงผิวหน้า รักษาความสดใสของผิวหน้าคุณ ๆ ได้อย่างล้ำลึก ขจัดริ้วรอยหมองคล้ำออกไป ผิวหน้าของคุณ ๆ จะนุ่มนวลอย่างไม่น่าเชื่อหลังจากการใช้ครีมสมุนไพรใบย่านางพอกผิวหน้าแล้ว
ส่วนผสมของสมุนไพรสดพอกหน้า ใบย่านาง
1.      ใบย่านาง คั้นเอาเฉพาะน้ำ   2 ช้อนโต๊ะ
2.      จมูกข้าวสาลี   1 ช้อนโต๊ะ
3.      น้ำมะนาว   1 ช้อนโต๊ะ
วิธีผสมสมุนไพรสดพอกหน้า ใบย่านาง
1.      นำใบย่านางมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นเอามาโขลกคั้นเอาแต่น้ำสีเขียวเข้มข้น ให้ได้ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ใส่ถ้วยเอาไว้ ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเวลาคั้นน้ำจากใบย่านางนี้ควรเอาน้ำสะอาดใส่ลงไปเล็กน้อยจะคั้นน้ำใบย่านางได้ง่ายขึ้น
2.      จากนั้นเอาจมูกข้าวสาลีผสมใส่ลงไปในน้ำใบย่านางคนให้เข้าด้วยกัน เติมน้ำมะนาวลงไป คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน แล้วเอามาใช้ประโยชน์ได้ทันที
วิธีใช้สมุนไพรสดพอกหน้า ใบย่านาง
  • ก่อนอื่นให้ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำธรรมดาทั่ว ๆ ไป ไม่ต้องใช้สบู่ใด ๆ ทั้งสิ้น แล้วซับผิวหน้าให้แห้ง รอจนใบหน้าแห้งดีแล้ว
  • นำส่วนผสมสมุนไพรสดพอกหน้า ใบย่านาง ที่ได้มาพอกลงบนใบหน้า เว้นรอบดวงตา เว้นรอบริมฝีปาก พอกให้ทั่วใบหน้าพอกให้ทั่วใบหน้าจากนั้นให้พอกไปที่คาง ลำคอโดยรอบ รวมทั้งช่วงไหล่ แขน และใต้ลำคอลงมาถึงทรวงอกด้วย แล้วปล่อยทึ้งไว้เฉย ๆ ให้ตัวยาสมุนไพรแทรกซึมเข้าไปในรูขุมขน แทรกเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อทำหน้าที่บำรุงรักษาผิวพรรณได้อย่างเต็มที่ เป็นเวลาประมาณ 10-15 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซับผิวหน้าให้แห้งอีกครั้งหนึ่ง เพียงเท่านี้เอง
สมุนไพรสดพอกหน้าใบย่านาง ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100%
คุณก็จะได้ชื่อว่าเป็นคนที่มีผิวหน้าอ่อนนุ่ม ชุมชื่น ด้วยความเย็นสบาย เกลี้ยงเกลาสดชื่นอยู่ตลอดเวลา เสน่ห์ของผิวหน้ามีอยู่อย่างน่าอิจฉาทีเดียว
เคล็ดลับในการเลือกใช้สมุนไพรพอกหน้า
พืชสมุนไพรทั้งหลายที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรประเภทต้นหญ้า พืชเถา ต้นไม้ยืนต้น ใบ ดอก แก่น เนื้อไม้ ราก เมล็ด หรือสิ่งที่ได้มาจากสัตว์ เช่น นมสด น้ำผึ้ง ไข่แดง ไข่ขาว นับได้ว่ามีคุณค่าในการเอามาเป็นส่วนผสมที่ดีสำหรับครีมพอกหน้า แต่การใช้ให้เหมาะสมกับสภาพของผิวหน้าของแต่ละคนนั้นจะต้องพิจารณาให้ดีเสียก่อน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดผลดีที่สุดในการบำรุงผิวหน้าให้สวยสดงดงามเกลี้ยงเกลาอยู่เสมอ ดังนั้นหลักสำคัญบางประการก่อนที่จะนำเอาสมุนไพรพอกหน้าสูตรต่าง ๆ ไปใช้ในการพอกหน้าของตนเองหรือให้ผู้อื่นใช้นั้น จะต้องคำนึงถึงลักษณะของผิวหน้าด้วยเช่น คนที่มีผิวหน้ามันและผิวหน้าแห้งเพื่อให้เกิดผลที่ดีที่สุด
สำหรับคนที่มีผิวหน้ามัน
  • ใช้ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว มีความเป็นกรดได้ดี แต่ไม่ควรใช้ในปริมาณมากจนเกินไป ควรใช้เพียงเล็กน้อยจะได้ผลดีกว่า ต้องอยู่ในดุลยพินิจด้วยว่าเป็นผลไม้ชนิดใด เปรี้ยวมากน้อยเพียงไร อย่างเช่น หากใช้น้ำมะนาวมาผสม ก็ใช้เพียง 2 หยด ก็พอต่อปริมาณน้ำ ครึ่งแก้ว มะขามเปียกเปรี้ยวไม่มากนัก สามารใช้ในปริมาณที่มากพอสมควรได้ สำหรับคนที่มีผิวหน้ามันทั้งหลาย
  • อย่านำน้ำมันมะกอกหรือไข่แดงมาผสมใช้รวมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวหน้ามันยิ่งขึ้นไปอีก แต่สามารถใช้ไข่ขาวของไข่ไก่มาผสมเข้ากับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ได้ เพื่อเกิดประโยชน์ได้ดีสำหรับคนที่มีผิวหน้ามันทั้งหลาย
  • สำหรับคนที่มีผิวหน้ามัน ให้นำแตงกวามาหั่นเป็นแว่น ๆ แล้วมาแปะลงไปที่ผิวหน้าของตนเองก็นับว่ามีความเหมาะสมดีทีเดียว เพราะแตงกวามีประโยชน์มากสำหรับคนที่มีผิวหน้ามัน เอาแตงกวามาใช้กันสด ๆ ไปเลยนะค่ะ ถ้าไม่ต้องการใช้วิธีแปะก็เอาเนื้อแตงกวามาปั่นให้ละเอียดแล้วนำเอาพอกลงไปที่ผิวหน้าเอาไว้ก็ได้ผลดีเช่นกัน เอมไซม์ที่มีอยู่ในเนื้อแตงกวาจะทำหน้าที่ชำระทำความสะอาดให้ผิวหน้าสำหรับคนที่ผิวมันของคุณเกลี้ยงเกลามากยิ่งขึ้น รวมทั้งเซลล์ที่ตายไปแล้วออกมาในลักษณะของขี้ไคล ผิวหน้าจะสดใสเปล่งปลั่งนวลเนียนมากขึ้น
สำหรับคนที่มีผิวหน้าแห้ง
  • จงอย่านำแตงกวาสดมาใช้สำหรับคนที่มีผิวหน้าแห้งโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผิวหน้าที่แห้งอยู่แล้วยิ่งแห้งหนักไปอีก หันไปใช้สมุนไพรชนิดอื่น ๆ ที่ไม่มีอันตรายต่อผิวแห้งทั้งหลายดีกว่า ซึ่งมีอยู่มากมาย เมินแตงกวาไปเสียทันที
  • จงอย่านำเอาผลไม้หรือสมุนไพรที่ออกรสเปรี้ยวมาก มีกรดมากมาใช้เพราะไม่ถูกกันนั่นเอง หากเป็นผลไม้หรือสมุนไพรที่มีกรดอ่อน ๆ ก็อนุโลม เช่น ส้มเขียวหวาน ส้มเช้ง เป็นต้น เพราะรสเปรี้ยวหรือความเป็นกรดมีอยู่น้อยกว่า
  • คนที่มีผิวหน้าแห้งทั้งหลาย หากนำเอาผลไม้หรือสมุนไพรที่มีกรดไม่มากนักมาใช้เป็นส่วนผสมพอกผิวหน้า ควรใช้ในปริมาณที่ไม่มากนัก และต้องใช้เวลาในการพอกหน้าไม่นานนัก เช่นให้ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็เพียงพอแล้ว ไม่ควรพอกหน้านาน 20-30 นาที
  • สำหรับคนที่มีผิวหน้าแห้ง หากนำเอาไข่แดงของไข่ไก่มาเป็นส่วนผสมของสมุนไพรพอกหน้าแล้วจะดีกว่า ทำให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื่นขึ้นได้ แต่อย่านำเอาไข่ขาวมาผสมก็แล้วกัน เอาเฉพาะไข่แดงเท่านั้นนะค่ะ
น้ำผึ้งแท้หรือน้ำผึ้งเดือนห้า
น้ำผึ้งถือเป็นสมุนไพรยาอายุวัฒนะที่ดีเยี่ยมอย่างหนึ่งของคนไทย มีการใช้น้ำผึ้งกันมาแล้วตั้งแต่ในสมันโบราณ แพทย์แผนไทยหรือหมอพื้นบ้าน เอามาปรุงยาต่าง ๆ เช่น ยาเม็ดลูกกลอน เอามาผสมเพื่อชงเป็นยาน้ำก็มี น้ำผึ้งยังเป็นส่วนผสมของสมุนไพรต่าง ๆ แล้วเอามาเป็นสมุนไพรสำหรับทา พอก ผิวหน้า เพื่อบำรุงใบหน้า รักษาสุขภาพของผิวหน้าให้นุ่มนวลเกลี้ยงเกลาอยู่เสมอ สร้างความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหน้าได้ดี เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่วิเศษทีเดียว
เรียบเรียงบทความ
สูตรสมุนไพรสดพอกหน้า พอกตัว ใบย่านาง 
ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100%
โดยกองบรรณาธิการ
www.YesSpaThailand.com

หน้าใสแบบธรรมชาติด้วยสาหร่ายทะเล


หน้าใสแบบธรรมชาติด้วยสาหร่ายทะเล

สาหร่ายทะเลเป็นพืชน้ำที่เราสามารถนำมาทำเป็นอาหาร  แถมยังเป็นของว่างเอามากินเล่นแก้เซ็งได้อีกด้วย วันนี้เราจะมาชวนเพื่อนๆทำครีมสูตร  หน้าใสแบบธรรมชาติ จากสาหร่ายทะเลกันค่ะ หน้าใสแบบธรรมชาติด้วยสาหร่ายทะเลทำได้ง่ายๆ  เพียงแค่เอาสาหร่ายทะเลมาแช่น้ำไว้ให้นุ่ม  ประมาณแผ่นเท่าฝ่ามือ  จากนั้นใส่ลงไปในเครื่องปั่นไฟฟ้า กดปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกันให้ละเอียด  เติมน้ำผึ้งลงไปสักหนึ่งช้อนโต๊ะ  ปั่นรวมกันเข้าไปอีกครั้ง  ใส่นมสดลงไปอีกสองช้อนโต๊ะ  ปั่นรวมกันเข้าไปอีกอย่างหนึ่ง  เพียงเท่านี้เราก็จะได้ครีมสูตรหน้าใสแบบธรรมชาติแล้วล่ะค่ะ  จัดการนำครีมที่ได้มาใส่ถ้วยทิ้งไว้  จากนั้นล้างหน้าของเราให้สะอาด  ซับหน้าด้วยผ้าขนหนูให้แห้ง  จัดการเอามาทาพอกผิวหน้าให้ทั่ว  ปล่อยทิ้งไว้สักยี่สิบนาที  ต่อจากนั้นให้ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งค่ะ  ทำสัปดาห์ละสี่ครั้งก่อนเข้านอน   เพียงแค่นี้เราก็จะได้หน้าใสแบบธรรมชาติที่ทำเองได้ง่ายๆแล้วล่ะค่ะ





การดูแลผิวด้วยเกลือ


เกลือ นอกจากมีประโยชน์ด้านคุณค่าทางโภชนาการแล้ว เกลือยังสามารถนำมาดูแลผิวให้มีสุขภาพดีได้อีกด้วย

การดูแลผิวด้วยเกลือ 

ลดรอยช้ำรอบดวงตา มีวิธีง่าย ๆ โดยผสมเกลือ 1 ช้อนชาในน้ำร้อน 1/2 ถ้วย ใช้ผ้าหรือสำลีชุบน้ำเกลือ ปิดตาไว้สัก 5-10 นาที รอยช้ำรอบดวงตาจะค่อยๆ จางลง

ลดความมันบนใบหน้า โดยเริ่มจากใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อนพอหมาดมาปิดหน้าไว้สัก 3-5 นาที เพื่อช่วยเปิดรูขุมขนก่อน แล้วจึงค่อยใช้เกลือ 1 ช้อนชา ผสมน้ำ ใส่ขวดสเปรย์ฉีดพ่นน้ำที่ผสมเกลือให้ทั่วใบหน้า จากนั้นก็ใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้าให้แห้ง

เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวพรรณ โดยใช้เกลือ 1/2 ถ้วย ผสมลงในอ่างอาบน้ำ แช่ตัวประมาณ 15-20 นาที จากนั้นเช็ดตัวให้แห้ง แล้วทาโลชั่นให้ทั่วร่างกาย เกลือจะช่วยให้ผิวชุ่มชื่นยิ่งขึ้น หรือขัดผิวให้สวยใสโดยใช้เกลือผงถูตัว แล้วใช้ฟองน้ำหรือผ้าขนหนูขัดให้ทั่วตัว โดยเกลือจะช่วยให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดออกมา ขณะเดียวกันก็กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกายอีกด้วย

ผ่อนคลายอาการเมื่อยล้าที่เท้า โดยผสมเกลือประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะลงในน้ำอุ่น แล้วแช่เท้าทั้งสองข้างไว้ จะช่วยให้รู้สึกคลายความเมื่อยล้าได้

ขอบคุณที่มาข้อมูล : http://women.sanook.com


วิธีการกระชับรูขุมขนแบบง่าย ๆ


วิธีการกระชับรูขุมขนแบบง่าย ๆ

วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีการกระชับรูขุมขนแบบง่าย ๆ มาฝากกัน....

 มะเขือเทศ : จะมีกรดชนิดหนึ่งที่ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ช่วยลดการเกิดสิวบนใบหน้าด้วย

วิธี คือ

1. ต้องปอกเปลือกออกก่อน แล้วฝานเป็นแผ่น ๆ นำเมล็ดออก

2. จากนั้นนำมาปั่นให้ละเอียดหรืออาจจะขยำจนเละและไม่จับเป็นก้อน

3. แล้วนำมาทาบนหัวสิว ระวังอย่าให้เข้าตา และทิ้งไว้ 10 ถึง 15 นาที

4. แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น แต่ถ้าใครลองแล้วมีอาการแสบๆ ล่ะก็ แสดงว่าเกิดอาการแพ้ ให้รีบล้างออกทันที


 



ไข่ไก่ : มีสรรพคุณในการช่วยกระชับผิว กระชับรูขุมขน เหมือนกับพวกโทนนิ่งโลชั่น

วิธี คือ

1. ให้ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดก่อน หรืออาจจะใช้น้ำนมก็ได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผิวสดชื่น

2. จากนั้นตอกไข่ใส่ชาม แยกไข่ขาวออกจากไข่แดง

3. ใช้เฉพาะไข่ขาวทาบนใบหน้า ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

4. จากนั้นก็ทามอยส์เจอไรเซอร์ปิดท้าย

บำบัดผิวให้สวยกระจ่างใสด้วยพลังผักผลไม้

มลภาวะ ฝุ่นควัน แสงแดด และความเครียด เป็นศัตรูตัวร้ายของผิวพรรณที่คอยบ่อนทำลายผิวสวยแก้มใสของคุณให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น จุดด่างดำ หมองคล้ำ ไม่พิสุทธิใสอย่างวัยแรกสาว

คุณไม่ต้องวิตกกังวลใจจนถึงขั้นซื้อหยูกซื้อยารักษาสิวรักษาฝ้า มาร์คหน้า พอกหน้าด้วยสารพัดเครื่องสำอางราคาแพงลิบลิ่ว ก่อนสิ่งอื่นใดคุณน่าจะลองมองหาวิธีแก้ไขในเบื้องต้นที่จะช่วยบำบัดผิวให้กลับมากระจ่างใส ด้วยพืชผักผลไม้ที่เรียกได้ว่าเป็นยาอายุวัฒนะ แถมยังหาง่ายมีใกล้ ๆ ตัวค่ะ




มาสค์หน้าผักผลไม้

มาสค์หน้าผักผลไม้


การรักษาผิวหน้าให้ผ่องใสดูจะเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นหน้าหมอง ๆ (จากแสงแดดแผดเผา) จะฟ้องว่าคุณไม่ดูแลตัวเองเท่าที่ควร มาสค์ที่นำมาเล่าต่อนี้คุณสามารถทำเองได้ง่าย ๆ ด้วยค่ะ

 Carrot Facial Mask

ส่วนผสม แครอท 2 ผล + น้ำผึ้ง 41/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ บดแครอทแล้วนำมาผสมกับน้ำผึ้งให้เข้ากัน นำมานวดและพอกทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด

Orange Yogurt Mask

ส่วนผสม โยเกิตรสธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะ + น้ำส้มคั้นสดประมาณ 1 ลูก

วิธีทำ นำส่วนผสมมาคนให้เข้ากัน แล้วทาให้ทั่วใบหน้า คุณจะได้ทั้งความสดชื่นและผ่อนคลาย ทิ้งไว้ 5 นาที

โยเกิตช่วยทำความสะอาดและถนอมผิว ส่วนส้มเต็มไปด้วยวิตามิน C และ AHA 





สูตรธรรมชาติ.. แก้ท้อง สะโพกลาย


สูตรธรรมชาติ.. แก้ท้อง สะโพกลาย

คุณผู้หญิงหลายท่านที่ผ่านการคลอดบุตร หรือบางท่านที่ผ่านการลดน้ำหนักตัวอย่างฮวบฮาบ หรือคุณผู้หญิงที่ขาดการดูแลเอาใจใส่ผิวในที่ลับ  

ซึ่งคุณสาว ๆ ที่อายุยังน้อย ก็อาจจะประสบกับปัญหาหน้าท้อง น่อง สะโพกลายกันได้ กรี๊ด.. แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ

ถ้าหากคุณเพิ่งเริ่มมีริ้วรอยแตกลายเพียงเล็กน้อย ลองใช้วุ้นสีขาวจากว่านหางจระเข้ที่ต้องล้างเอายางสีเหลืองออกเรียบร้อยแล้ว หรือจะเป็นใบบัวบกตำคั้นเอาแต่น้ำ นำมาทาบริเวณริ้วรอยแตกลายเป็นประจำทุก เช้า เย็น ผิวที่แตกลายก็จะค่อย ๆ จางลงได้ค่ะ

10 เคล็ดลับความสวย ธรรมชาติล้วนๆ


10 เคล็ดลับความสวย ธรรมชาติล้วนๆ

1. สตรอว์เบอร์รี่เพื่อผิวสะอาดหมดจด
ประโยชน์ : สตรอว์เบอร์รี่อุดมด้วยวิตามินและกรดเอเอชเอธรรมชาติ ซึ่งสามารถช่วยปรับสภาพผิวและลดการอุดตันของรูขุมขนได้ดี
วิธีใช้ : ผสมสตรอว์เบอร์รี่ 2-3 ผลกับน้ำมะนาว นำมานวดให้ทั่วใบหน้า แล้วจึงล้างออก

2. ส้มเพื่อกระชับรูขุมขน
ประโยชน์ : วิตามินและกรดธรรมชาติในส้มจะช่วยสมานและกระชับผิว
วิธีใช้ : ผสมน้ำส้มสด 2-3 หยดกับน้ำแร่ จากนั้นนำสำลีมาชุบแล้วเช็ดให้ทั่วใบหน้าเหมือนโทนเนอร์ทั่วไป

3. ผักกาดแก้วเพื่อผิวกระจ่างใส
ประโยชน์ : ผักกาดแก้วช่วยลดการอักเสบของผิวและช่วยให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น
วิธีใช้ : นำผักกาดแก้ว (4 ใบ) มาต้มประมาณ 10 นาที ทิ้งให้เย็นแล้วกรองเอาแต่น้ำ จากนั้นำสำลีมาชุบน้ำที่กรองไว้ เช็ดให้ทั่วใบหน้าเหมือนโทนเนอร์ทั่วไป

4. แอปริคอตเพื่อแก้มใสเปล่งปลั่ง
ประโยชน์ : แอปริคอตอุดมด้วยวิตามินเอจึงช่วยให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง
วิธีใช้ : นำแอปริคอตสุกมาบดให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออก ใช้เหมือนเจลหรือครีมมาสก์หน้าทั่วไป

5. มะนาวเพื่อปรับสภาพผิวหน้าอก
ประโยชน์ : กรดธรมชาติและสารฟลาโวนอยด์ในมะนาวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าออกและกระชับผิวให้ตึงขึ้น
วิธีใช้ : นวดหน้าอกด้วยน้ำมะนาวทุกเย็น

6. แครอตเพื่อยืดอายุผิวสีแทน
ประโยชน์ : แครอตมีสารเบต้าแคโรทีนและแอนตี้ออกซิแดนต์สูง จึงช่วยรักษาสภาพและสีผิวอยางผิวสีแทนหลังอาบแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีใช้ : ละลายวาสลีน 10 กรัม ในน้ำมันจมูกข้าวสาลี (wheat germ) ที่ตั้งไฟจนร้าน จากนั้นเติมน้ำแครอต (4 หัว) ลงไป คนให้เข้ากันแล้วรินใส่ภาชนะเก็บไว้ นำมาทาผิวกายและผิวหน้าให้ทั่ววันละ 1 ครั้งเหมือนครีมบำรุงผิวทั่วไป

7. เกลือเพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ
ประโยชน์ : เกลือมีสารไอโอดีน ทองแดง และสังกะสี ซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อที่เมื่อยล้าให้กลับมากระชับและแข็งแรงเหมือนเดิม
วิธีใช้ : ละลายเกลือทะเล 1 กำมือลงในอ่างอาบน้ำแล้วลงไปแช่ทั้งตัวหรือจะแช่เฉพาะมือและเท้าก็ได้

8. น้ำผึ้งเพื่อลดรอยคล้ำรอบดวงตา
ประโยชน์ : น้ำผึ้งมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรียและบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม
วิธีใช้ : ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนกาแฟ กับน้ำแร่งอุ่นๆ ครึ่งแก้ว จากนั้นใช้สำลีชุบแล้วนำมาวางบนผิวบริเวณรอบดวงตาทั้ง 2 ข้าง ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที

9. มันฝรั่งเพื่อลดถุงใต้ตา
ประโยชน์ : สตาร์ช (Starch) หรือสารสีขาวจำพวกคาร์โบไฮเดรตที่พบได้ในข้าว ข้าวโพด หรือมันฝรั่ง จะช่วยลดการอักเสบของผิวได้
วิธีใช้ : หั่นมันฝรั่งเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วพอกไว้หนาๆ บริเวณใต้ดวงตา ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น

10. กล้วยเพื่อผมนุ่มสลวย
ประโยชน์ : กล้วยอุดมไปด้วยกลูไซด์ซึ่งช่วยบำรุงผิวรวมทั้งเส้นผมด้วย
วิธีใช้ : ผสมกล้วยสุกกับน้ำมันอัลมอนด์ 2-3 หยด นำมาชโลมให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วจึงล้างออก

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก ผู้หญิงนะคะดอทคอม

3 โยคะ ท่าสัตว์ บริหาร หน้าสวยใส

โยคะ ท่าสัตว์ บริหาร หน้าสวยใส

โยคะ

…….แม้คนวัยหนุ่มสาวจะยังไม่ค่อยประสบปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย หรือผิวเสีย เพราะระบบร่างกายยังทำงานดีอยู่ก็ตาม แต่หากไม่ดูแลตัวเองให้ดี คุณก็มีสิทธิ์เผชิญความแก่ก่อนวัยได้เช่นกัน.มาฝาก ซึ่งช่วยทั้งกระชับกล้ามเนื้อ และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณใบหน้าและลำคอ ทำให้กล้ามเนื้อใบหน้ากระชับ ช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง
แนะนำให้ทำท่าโยคะต่อไปนี้เป็นประจำทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น โดยทำ 5-10 ครั้ง
ท่า ปลาทอง อ้าปากพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น หุบปากลงช้าๆ พร้อมกับทำแก้มป่อง ทำเป็นจังหวะ 2-3 ครั้ง จังหวะสุดท้ายให้อมลมไว้ในปาก ใช้นิ้วมือกดริมฝีปากลงให้แก้มป่องขึ้น ค้างไว้ 10 วินาที หายใจเข้า-ออกตามปกติ แล้วค่อยๆ ปล่อยลมออก
ท่าปลาปักเป้า ดูดกะพุ้งแก้มทั้งสองข้างเข้ามาจนปากจู๋ จากนั้นใช้ฟันกรามกดค้างไว้เบาๆ 10 วินาที แล้วค่อยๆ ปล่อยแก้มออก
 ท่า กบกลืนน้ำลาย นั่งขัดสมาธิ เท้าแขนทั้งสองข้างกับพื้นด้านหน้าให้แขนตึง เงยหน้าขึ้น 45 องศา กลืนน้ำลายลงคอ พร้อมกับกลั้นหายใจ 5-10 วินาที
อ้างอิง ฉัตริษา ศรีสานติวงศ์. โยคะหน้าเด็ก. กรุงเทพฯ: อมรินทร์สุขภาพ, 2553.
ติดตามอ่านได้ใน นิตยสารชีวจิต

 

8 ความลับ ของ สาวผอมหุ่นดี


 8 ความลับ ของ สาวผอมหุ่นดี

       ขณะที่คนซึ่งน้ำหนักเกินส่วนใหญ่มักจะหมกหมุ่นกับเรื่องการกินมากกว่า ลองมาแอบดูว่าคนผอมๆ ทำหรือไม่ทำอะไร แล้วคุณจะเลียนแบบพวกเธอได้ยังไงบ้าง
 1. พวกเธอเลือกอาหารที่ทำให้พึงพอใจมากกว่าอิ่มจนแน่นท้อง
ในอัตราส่วนความอิ่มจาก 1 ถึง 10 ผู้หญิงรูปร่างผอมจะหยุดกินเมื่อถึงระดับ 6 หรือ 7 ขณะที่คนส่วนมากมักกินต่อไปจนถึงระดับ 8 หรือ 10 มันอาจเพราะคุณสำคัญผิดระหว่างความอิ่มกับความพึงพอใจ หรือคุณอาจเคยชินกับการกินทุกอย่างตรงหน้าจนหมดเกลี้ยงไม่ว่าคุณจะต้องการมันจริงๆ หรือไม่ก็ตาม
วิธีเลียนแบบ เพื่อกินแบบเดียวกับผู้มีรูปร่างผอม วางช้อนลง และประเมินความอิ่มจากอัตราส่วน 1 ถึง 10 ทำแบบเดียวกันอีกครั้ง เมื่อเหลือสักห้าคำ เป้าหมายก็คือเพิ่มความรู้ตัวถึงความพึงพอใจของตัวเองในระหว่างการกิน (มันยังทำให้คุณกินช้าลงซึ่งให้โอกาสความอิ่มส่งสัญญาณเข้ามา)
2 . พวกเธอรู้ว่าความหิวไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน
คนส่วนใหญ่ที่ดิ้นรนกับเรื่องน้ำหนักตัวมักมองความหิวเป็นสิ่งที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน ดังนั้น ถ้าคุณกลัวความหิว คุณอาจกินมากเกินไปอยู่เสมอ แต่คนผอมๆ จะทนได้มากกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงมัน
วิธีเลียนแบบ เลือกวันที่ยุ่งๆ เพื่อชะลอเวลาอาหารกลางวันออกไปอย่างจงใจสักหนึ่งหรือสองชั่วโมง หรือลองพยายามงดของว่างมื้อบ่ายสักหนึ่งวัน คุณจะเห็นได้ว่าตัวเองก็ยังสบายดีอยู่ จากนั้น ครั้งต่อไปที่คุณได้ยินเสียงท้องร้อง คุณจะหยุดตัวเองไม่ให้ตรงดิ่งไปยังตู้เย็นในทันทีได้
 3. พวกเธอไม่ใช้อาหารเพื่อเยียวยาอารมณ์เศร้า
ไม่ใช่ว่าผู้หญิงรูปร่างผอมบางมีภูมิด้านทานต่อการกินตามอารมณ์ แต่พวกเธอมักจะรู้ตัว เวลาที่ทำอย่างนั้นและหยุดมันได้
วิธีเลียนแบบ ถ้าคุณหิวจริงๆ กินของว่างที่มีประโยชน์ อย่างเช่นถั่วหนึ่งกำมือ เพื่อหยุดตัวเองเอาไว้ ก่อนรออาหารมื้อต่อไป แต่ถ้า คุณหงุดหงิด เหงา หรือเหนื่อย ลองหาทางออกที่ปราศจากแคลอรี่ เช่น ออกไปวิ่งหรือกระโดดโลดเต้นไปมารอบๆ อัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้ความโกรธหายไป เหงาก็โทรหาเพื่อน หรือไปเดินเล่นที่ศูนย์การค้าหรือถ้าเหนื่อยก็ไปนอนเสียดีกว่า
 4. พวกเธอกินผลไม้มากกว่า
งานวิจัยเมื่อปี 2006 ใน Journal of the American Dieletic Association ระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงรูปร่างผอมบาง มักกินผลไม้มากกว่าหนึ่งครั้งในแต่ละวัน กินเส้นใยอาหารมากกว่าและกินไขมันน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคนอ้วน
วิธีเลียนแบบ ลองเริ่มสำรวจการกินของคุณเพื่อหาทางเพิ่มผลไม้ (ไม่ใช่น้ำผลไม้นะ) เข้าไป ตั้งเป้ากินให้ได้สองหรือสามส่วนต่อวัน เช่น เพิ่มผลไม้ลงไปในอาหารแต่ละมื้อ หรือกินผลไม้เป็นของหวาน
 5. พวกเธอสร้างความเคยชิน
การกินอาหารหลากหลายเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าหลากหลายมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียได้ งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการกินอาหารที่มีรสชาติแตกต่างกันมากเกินไปทำให้คุณยิ่งกินมากขึ้น คนผอมมักจะมีรูปแบบของการกินที่วางแผนมาแล้วอย่างดี มีของแปลกๆ เพิ่มเข้ามา 2-3 อย่าง แต่ส่วนใหญ่อาหารของพวกเธอจะคาดเดาได้
วิธีเลียนแบบ ลองกินอาหารหลักๆ ซ้ำกันในแต่ละมื้อ เช่น กินซีเรียลตอนเช้า กินสลัดตอนกลางวัน กินปลาตอนเย็น เป็นต้น มันโอ.เค. ที่จะเพิ่มทูน่าหรือไก่ย่าง เข้าไปกับสลัดผักในบางวัน แต่การกินกับอาหารหลักๆ ที่เดาได้ คุณจะจำกัดโอกาสที่จะกินมากเกินไปได้
 6. พวกเธอรู้จักการควบคุมตัวเอง
งานวิจัยที่มหาวิทยาลัย Tufts พบว่า ปัจจัยที่ทำนายได้ถึงการมีน้ำหนักขึ้นของผู้หญิงในวัย 50 และ 60 คือระดับของความยับยั้งชั่งใจ ผู้หญิงที่มีความยับยั้งชั่งใจสูงจะมีดัชนิมวลกายต่ำกว่า
วิธีเลียนแบบ เตรียมพร้อมสำหรับช่วงเวลาที่คุณมักจะขาดความยับยั้งชั่งใจอย่างมาก เช่น ท่ามกลางบรรยากาศการเฉลิมฉลองหรือเวลาอยู่กับเพื่อน ถ้าคุณชอบกินตอนงานเลี้ยง บอกตัวเองว่าคุณจะกินของว่างแค่หนึ่งชิ้นในรอบที่สี่ ซึ่งมันถูกส่งผ่านมา ถ้าคุณกินมื้อค่ำนอกบ้านลองสั่งอาหารมาแบ่งกันกับเพื่อน หรือถ้าคุณเครียด ก็ให้แน่ใจว่าคุณมีของว่างที่เคี้ยวได้ (อย่างเช่น ผลไม้หรือแครอตแท่ง) เอาไว้ใกล้มือ
 7. พวกเธอชอบเคลื่อนไหว
โดยเฉลี่ยผู้หญิงรูปร่างผอมจะยืนมากกว่า 2 ชั่วโมงครึ่งในแต่ละวัน ที่สามารถช่วยเผาผลาญได้ 33 ปอนด์ต่อปี นี่เป็นผลจากการศึกษาของลินิกเมโย ในเมืองโรเชลเตอร์ สหรัฐฯ
วิธีเลียนแบบ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าคนเรามักประเมินความแอ็คทีฟของตัวเองเกินจริง คนส่วนใหญ่มักใช้เวลา 16-20 ชม. ในแต่ละวันไปกับการนั่ง ใส่เครื่องนับก้าวเพื่อดูว่าคุณเข้าใกล้จำนวน 10,000 ก้าวแค่ไหน และในแต่ละวันคุณควรออกกำลัง 30 นาที รวมกับการเคลื่อนไหวอื่นๆ เช่น การเดินขึ้นบันได
8. พวกเธอนอนหลับสนิท
ผู้หญิงที่ผอมบางมักนอนมากกว่า 2 ชม. ต่อสัปดาห์ เมื่อเทียบกับคนน้ำหนักเกิน งานวิจัยของโรงเรียนแพทย์อีสเทิร์นเวอร์จิเนียบอกเช่นนั้น นักวิจัยเชื่อว่าการนอนน้อยทำให้ระดับของฮอร์โมนที่ช่วยกดความอยากอาหาร (Lepfin) ต่ำลง และระดับของฮอร์โมนที่เพิ่มความอยากอาหาร (Ghrelin) สูงขึ้น
วิธีเลียนแบบ ลองชั่วโมงต่อสัปดาห์ก็คือประมาณ 17 นาที/ต่อวัน ซึ่งสามารถทำได้ง่ายกว่ามาก แม้คุณจะงานยุ่งเพียงใดก็ตาม เริ่มต้นตรงนั้นและค่อยๆ เพิ่มเวลานอนให้ได้วันละ 8 ชม. ในแต่ละคืน ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ใหญ่ส่วนมาก

ขอบคุณ นิตยสาร Lisa